ในยุคที่การทำธุรกิจคนเดียว (Solopreneur) กลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลาย ๆ คน Justin Welsh หนึ่งใน Solopreneur ที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ได้เล่าประสบการณ์และกลยุทธ์ในการสร้างและขยายธุรกิจตัวคนเดียวของเค้า
เราลองมาดูแนวทางการสร้าง Personal Branding ด้วยการใช้ LinkedIn อย่างมีประสิทธิภาพ และวิธีการสร้างรายได้จากธุรกิจของเราเองจากวิธีคิดของ Justin กันครับ
ปรัชญาชีวิตของ Justin
ปรัชญาชีวิตของ Justin Welsh คือการทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ กับคนที่เขาต้องการ และเมื่อไหร่ก็ได้ที่เขาต้องการ
เป็นแนวทางที่ชัดเจนและสื่อถึงความต้องการในการมีอิสระและสามารถควบคุมชีวิตตัวเองได้
การมองชีวิตผ่านเลนส์นี้ทำให้เขาสามารถตัดสินใจที่ดีขึ้นและมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา
การหลุดจากการถูกควบคุมชีวิต
Justin ประสบปัญหา Burn out จากการทำงานในตำแหน่งผู้บริหารในบริษัท SaaS ที่เติบโตรวดเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง
เขาได้เรียนรู้ว่าการทำงานหนักไม่ใช่สาเหตุหลักของการ Burn out แต่คือการสูญเสียการควบคุมในชีวิตและการทำงาน
การเผชิญหน้ากับการโจมตีทางจิตใจนี้ทำให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตัวเอง
ความสำคัญของการเดิน
การเดินกลายเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับ Justin เขาและภรรยาของเขาเดินวันละ 10 ไมล์ซึ่งช่วยให้เขาฟื้นฟูสุขภาพและความคิดได้อย่างมาก
การเดินไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกาย แต่ยังเป็นช่วงเวลาที่เขาใช้ในการคิดและสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ
กระบวนการมีสติ
ในระหว่างการเดิน Justin มักจะพูดคุยกับภรรยาเกี่ยวกับปัญหาทางธุรกิจของตัวเค้าเอง
การได้ฟังความคิดเห็นและมุมมองจากคนอื่นทำให้เขาเห็นปัญหาของตัวเองในแง่มุมที่แตกต่าง และสามารถหาทางแก้ไขได้ดีขึ้น
ตารางประจำวันของ Justin
ตารางประจำวันของ Justin มีความเป็นระเบียบและมีโครงสร้างชัดเจน
เขาตื่นนอนตอนหกโมงเช้าและใช้เวลาสำหรับการดื่มกาแฟกับภรรยา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขารู้สึกสมองโปร่งโล่ง ชัดเจนที่สุดในวันนั้น
หลังจากนั้นเขาจะลงมือทำงานโดยการโพสต์เนื้อหาบน LinkedIn และใช้เวลาสำหรับการมีส่วนร่วมกับผู้คนในแพลตฟอร์มนี้
- 6:00 - ตื่นนอนและดื่มกาแฟ
- 7:15 - โพสต์เนื้อหาบน LinkedIn
- หลังจากนั้น - เดินหรือไปยิม
- พักกลางวัน - เขียนงานประมาณ 1.5 ชั่วโมง
- อังคาร, พุธ, พฤหัส - พบลูกค้า
- จันทร์, ศุกร์ - ทำงานเกี่ยวกับระบบธุรกิจ
การทำงานด้วยตนเอง
การทำงานด้วยตนเองไม่เพียงแต่เป็นการสร้างรายได้ แต่ยังเป็นการสร้างความสุขและความพึงพอใจในชีวิต การมีอิสระในการทำงานตามที่ต้องการสามารถช่วยให้เรามีความคิดสร้างสรรค์และความมุ่งมั่นมากขึ้น การทำงานด้วยตนเองช่วยให้เราสามารถเลือกทำสิ่งที่เรารักและมีความสุขได้
การสร้างและดึงดูดความสนใจใน LinkedIn
LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการสร้างเครือข่ายและดึงดูดความสนใจจากผู้คนในอุตสาหกรรมของเรา
การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและน่าสนใจจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเชื่อมต่อกับผู้คนที่มีอิทธิพลและผู้ที่สามารถช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจของเราได้
กลยุทธ์การสร้างเนื้อหาบน LinkedIn
- สร้างโพสต์ที่มีคุณค่าและน่าสนใจ
- ใช้รูปภาพและวิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจ
- มีส่วนร่วมในโพสต์ของผู้อื่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว (Long-term engagement)
- โพสต์ในเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มการมองเห็น
กระบวนการใช้งาน LinkedIn ของ Justin
Justin ใช้ LinkedIn เป็นแพลตฟอร์มหลักในการสร้างแบรนด์ส่วนตัวและดึงดูดผู้ติดตาม
เขาเริ่มต้นด้วยการเขียนเนื้อหาทุกวัน ซึ่งเป็นการฝึกฝนทักษะการเขียนและช่วยให้เขาเข้าใจวิธีการดึงดูดความสนใจจากผู้คนใน LinkedIn
การวิเคราะห์ผลลัพธ์
Justin เน้นการวิเคราะห์ผลลัพธ์จากโพสต์ของเขา โดยเขาจะตรวจสอบว่าเนื้อหาประเภทใดที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และปรับปรุงกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ความเห็นของ Justin เกี่ยวกับการใช้ Paid Ads
Justin ไม่เคยใช้โฆษณาแบบ Paid Aids ในการโปรโมตสินค้าของเค้าเลย
เขาเชื่อว่าการสร้างผู้ติดตามแบบ organic เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการสร้างยอดขายและความไว้วางใจจากลูกค้า
เพราะการสร้างเนื้อหาและการมีส่วนร่วมกับผู้คนใน LinkedIn ช่วยให้เขาเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
การเลือกไม่ใช้โฆษณา
เขาเลือกที่จะไม่ใช้โฆษณาเนื่องจากเขาเชื่อว่าการสร้าง engagement ที่แท้จริง และมอบคุณค่าและข้อคิดดีๆกับผู้ติดตามจะช่วยให้เขาเติบโตได้อย่างยั่งยืน
แบรนด์ส่วนตัวของ Justin
Justin มองว่าตนเองเป็นธุรกิจที่เดินได้ เขาไม่ถือว่าตนเองเป็นเพียงแบรนด์ส่วนตัว แต่เป็นบุคคลที่สามารถแก้ปัญหาของผู้คนได้
การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
การสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่แข็งแกร่งต้องเริ่มจากการเข้าใจคุณค่าของตนเองและสิ่งที่เราสามารถเสนอให้กับผู้คนได้ การมีความชัดเจนในแบรนด์จะช่วยให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงกับเราได้ง่ายขึ้น
การโปรโมตใน LinkedIn
การโปรโมตใน LinkedIn จำเป็นต้องมีการวางแผนและกลยุทธ์ที่ดี Justin ใช้การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและแสดงความเชี่ยวชาญเพื่อดึงดูดผู้ติดตามและลูกค้า
การสร้างความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น
เขาใช้กลยุทธ์ในการสร้างความรู้สึกอยากรู้อยากเห็นในผู้ติดตาม โดยการนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าและสร้างแรงดึงดูดให้ผู้คนสนใจในสิ่งที่เขานำเสนอ
การให้คุณค่ากับผู้ติดตาม
การให้คุณค่าแก่ผู้ติดตามและลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคดิจิทัลที่ผู้คนมีตัวเลือกมากมาย การให้คุณค่าที่แท้จริงจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและความไว้วางใจกับลูกค้าของเรา
การสร้างคุณค่าในเนื้อหา
เนื้อหาที่มีคุณค่าไม่เพียงแต่ช่วยให้เราดึงดูดผู้ติดตามใหม่ แต่ยังช่วยรักษาผู้ติดตามเก่าไว้ได้อีกด้วย การให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์และตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายจะทำให้พวกเขากลับมาหาเราอีกครั้ง
ทำไมต้องทำแบบรายไตรมาส
การจัดการธุรกิจในรูปแบบการสมัครสมาชิกแบบรายไตรมาสเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและลดความเสี่ยง การให้ลูกค้าได้ทดลองใช้บริการในระยะเวลาสั้น ๆ ช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
การจัดการความเสี่ยง
การใช้โมเดลสมัครสมาชิกรายไตรมาสช่วยให้เราสามารถจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น หากลูกค้าไม่พอใจกับบริการภายในสามเดือน พวกเขาสามารถยกเลิกได้โดยไม่รู้สึกว่าต้องผูกพันเป็นเวลานาน
อนาคตของธุรกิจ
อนาคตของธุรกิจมีแนวโน้มที่จะมุ่งไปสู่การทำงานแบบอิสระและการสร้างแบรนด์ส่วนตัว ผู้ประกอบการคนเดียวจะสามารถสร้างผลกระทบได้มากขึ้นเมื่อพวกเขาร่วมมือกัน
การสร้างเครือข่ายและการทำงานร่วมกัน
การสร้างเครือข่ายกับผู้ประกอบการคนอื่น ๆ จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโต การรวมกลุ่มกันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
การสร้าง niche ของตัวเอง
การสร้าง niche ของเราเองทำให้เราไม่ต้องแข่งขันกับใคร การเป็นตัวของตัวเองและเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนใครจะช่วยให้เรามีตลาดเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่ Justin เน้นมาตลอดในการเป็น Solopreneur
Explore ช่องทางการสร้างรายได้ใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น
ธุรกิจ NoCode
ธุรกิจ NoCode เป็นแนวทางที่น่าสนใจในการสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ต้องพึ่งพาการเขียนโปรแกรม การใช้เครื่องมือ NoCode ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
การใช้เครื่องมือ NoCode เพื่อสร้างธุรกิจ
การใช้เครื่องมือ NoCode ช่วยให้เราสามารถสร้างเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือระบบต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน
แหล่งรายได้แรก
การสร้างแหล่งรายได้แรกเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ การเลือกแหล่งรายได้ที่เหมาะสมกับความสนใจและความเชี่ยวชาญของเราจะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้เร็วขึ้น
การสำรวจตลาดและความต้องการของลูกค้า
การทำความเข้าใจตลาดและความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างแหล่งรายได้แรก การสำรวจและวิเคราะห์ความต้องการจะช่วยให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตรงใจลูกค้า
ฟรีแลนซ์ vs ที่ปรึกษา
การเลือกทำงานในฐานะฟรีแลนซ์หรือที่ปรึกษามีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ทั้งสองรูปแบบสามารถสร้างรายได้ที่ดี แต่ขึ้นอยู่กับวิธีการทำงานและความต้องการของลูกค้า
ข้อดีของการเป็นที่ปรึกษา
- สามารถตั้งอัตราค่าบริการที่สูงขึ้นได้
- มีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับลูกค้า
- สามารถนำเสนอความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านได้
ข้อดีของการเป็นฟรีแลนซ์
- มีความยืดหยุ่นในการทำงาน
- สามารถเลือกโครงการที่สนใจได้
- ไม่ต้องพึ่งพาลูกค้าเพียงรายเดียว
สรุปแนวทาง Solopreneur ของ Justin Welsh
Justin Welsh มีปรัชญาชีวิตอย่างไร?
Justin Welsh เชื่อในปรัชญาการทำสิ่งที่ต้องการ กับคนที่ต้องการ ในเวลาที่ต้องการ ซึ่งช่วยให้เขามีอิสระและควบคุมชีวิตได้ดีขึ้น
การเดินมีความสำคัญอย่างไรต่อ Justin?
การเดินเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับ Justin เพราะช่วยฟื้นฟูสุขภาพและความคิด นอกจากนี้ยังเป็นเวลาที่เขาใช้ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับธุรกิจกับภรรยา
Justin ใช้กลยุทธ์อะไรในการสร้างเนื้อหาบน LinkedIn?
Justin ใช้กลยุทธ์ในการสร้างโพสต์ที่มีคุณค่า ใช้รูปภาพและวิดีโอเพื่อดึงดูดความสนใจ และมีส่วนร่วมในโพสต์ของผู้อื่นเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว
ทำไม Justin ถึงไม่ใช้โฆษณา Paid Ads?
Justin เชื่อว่าการสร้างผู้ติดตามแบบ organic เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการสร้างยอดขายและความไว้วางใจจากลูกค้า
การสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่แข็งแกร่งต้องเริ่มจากอะไร?
การสร้างแบรนด์ส่วนตัวที่แข็งแกร่งต้องเริ่มจากการเข้าใจคุณค่าของตนเองและสิ่งที่สามารถเสนอให้กับผู้คนได้ เพื่อให้ผู้คนสามารถเชื่อมโยงกับเราได้ง่ายขึ้น